หลวงปู่ทิม ปี2517-18

            เหรียญพระเกจิอาจารย์อันมหัศจรรย์ที่ออกมาแล้ว หมดเกลี้ยงภายใน ๓ วัน ทั้งๆ ที่ไม่มีใครรู้จักท่านมาก่อน มีผู้เอาไปแขวนยิง ปรากฏว่า ปากกระบอกปืนบวม กระสุนปืนขัดลำกล้องหลายราย 
            เหรียญเจริญพร หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จังหวัดระยอง ซึ่งผมเองสร้างขึ้นมา นับเป็นเหรียญมหัศจรรย์อย่างยิ่งในยุคนั้น ที่เหรียญจำนวนเกือบ ๒๐,๐๐๐ เหรียญ ได้หมดไปอย่างรวดเร็วภายใน ๓ วัน ทั้งๆที่ผมคิดว่าหากเหรียญนี้ออกหมดภายในหนึ่งเดือน ผมก็ดีใจและพอใจอย่างยิ่ง เพราะในปีนั้นชื่อเสียงของ หลวงปู่ทิม อิสริโก ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายเหมือนอย่างพระเกจิอาจารย์ชื่อดังๆ ในยุคเดียวกัน (เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๗) 
            หลวงปู่ทิม ท่านอนุญาติให้ผมสร้าง เหรียญเจริญพร ขึ้นทั้งสิ้น ๒๐,๐๐๐ เหรียญ แต่มีเวลาในการสร้างกระชั้นชิดมาก คือเริ่มดำเนินการวิ่งเต้นแกะเหรียญและพิมพ์เหรียญ เมื่อต้นเดือนเมษายน กว่าจะแกะแม่พิมพ์เสร็จ ลงมือปั๊มเหรียญได้ก็ล่วงเข้าไปถึงวันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๑๗ และ เหรียญทั้งหมดจะต้องเสร็จก่อนพระอาทิตย์ตกดิน นำไปให้หลวงปู่ทิมปลุกเสก ในวันเสาร์ที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๑๗ ในระหว่างปั๊มเหรียญอยู่ ๓ วันผมจึงต้องมาเร่งและนั่งคุมปั๊มทุกวัน

            จนวันศุกร์ที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๑๗ เวลา ๑๘.๐๐ นาฬิกา ปั้มเหรียญทองแดงไปได้เพียง ๑๕,๘๙๕ เหรียญ, เหรียญเงิน ๓๔๓ เหรียญ, เหรียญชิน ๔๐๐ เหรียญ, และเหรียญทองคำ ๑๖ เหรียญ ผมจึงให้ช่างหยุดปั๊มเพียงเท่านั้นและถอดแม่พิมพ์เหรียญทุกตัว มีตัวผู้ ซึ่งแกะเป็นองค์หลวงปู่หนึ่งตัว ตัวแม่ปั๊มด้านหน้า ๓ ตัว มีเจริญพร (ล่าง) ๑ ตัว และเจริญพร (บน) ๒ ตัว (ต่อมาทราบภายหลังว่ายังมีตัวถอดสำรองหลงอยู่อีกพิมพ์หนึ่ง) และตัวปั๊มด้านหลัง ๑ ตัว และแม่พิมพ์พระปรกใบมะขามอีก ๑ ชุด (๒ ชิ้น)

รูปถ่ายหลวงปู่ทิม ต้นแบบเหรียญเจริญพร ถ่ายโดยคุณชินพร สุขสถิตย์

หลวงปู่ทิมดูศิษย์ กำลังตอกเลขและโค๊ตเหรียญเจริญพร คืน วันเสาร์ที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๑๗

              แล้วขึ้นรถบรรทุกไปที่วัดละหารไร่ทันที ในคืนวันศุกร์ที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๑๗ 
            ไปถึงวัดละหารไร่ เมื่อเวลาเกือบ ๑ นาฬิกาของเช้าวันเสาร์ที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๑๗ ผมจึงกล้าพูดได้เต็มปากว่าเหรียญชุดนี้ไม่มีตกหล่นอยู่ที่โรงปั๊มเลยสักอันเดียว ผมและเพื่อนๆ พยายามเก็บเศษเหรียญที่แลเห็นทุกเหรียญไปเข้าพิธีจนหมด และด้วยความเร่งรีบที่จะนำเหรียญไปเข้าพิธีนี่เอง เหรียญนวโลหะทั้งหมด ๑,๑๖๖ เหรียญซึ่งเป็นเหรียญที่ปั๊มหลังสุดจึงไม่ทันตัดขอบ ปั๊มเสร็จก็เอาขึ้นรถไปเลย เมื่อปลุกเสกเสร็จครบ ๗ วัน ๗ คืนแล้ว ผมจึงได้นำกลับมาและขออนุญาตจากหลวงปู่เอามาตัดขอบที่โรงปั๊มอีกที จึงทำให้เหรียญนวโลหะเสีย เพราะตัดขอบชำรุดไปถึง ๒๘ เหรียญและได้แจกผู้ร่วมงานไปจนหมด ขอบเหรียญนวโลหะทั้ง ๑,๑๖๖ เหรียญได้ผสมเททองปนไปในเนื้อพระกริ่งชินบัญชรด้วยทั้งหมด ใช้พระกริ่งชินบัญชรก็เหมือนมีเหรียญเจริญพรอยู่ด้วย
            เหรียญเจริญพรหลวงปู่ทิม ที่สร้างขึ้นเพื่อหารายได้ไปสร้างศาลาการเปรียญครั้งนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น ๑๗,๘๒๐ เหรียญ เป็นเหรียญชนิดต่างๆดังนี้

เหรียญเจริญพร ทองคำ หมายเลข ๑

• เหรียญเจริญพรทองคำ สร้างจำนวน ๑๖ เหรียญ หนักเหรียญละ ๑๗.๒ กรัม เป็นเหรียญซึ่งลูกศิษย์สร้างไว้ใช้เอง ๑๔ เหรียญ, อีก ๒ เหรียญมีผู้สั่งจองและส่งเงินค่าทองคำให้ก่อนในราคา ๒,๐๐๐ บาท ซึ่งตอนหลังได้ขอให้ส่งมาเพิ่มเป็นเหรียญละ ๒,๒๐๐ บาท ตามน้ำหนักของทองและค่าทำหูทองคำ,เชื่อมหู ทุกเหรียญมีหมายเลขกำกับอยู่ด้านหลังตั้งแต่ ๑-๑๖ และในซอกแขนขวาตอกโค๊ตตัว “ท” ไว้ด้วย เหรียญทองคำทั้ง ๑๖ เหรียญหลวงปู่ทิมจะจารคำ“สะ” ไว้ที่ด้านขวามือทุกเหรียญ คำว่า “สะ” มีความหมายว่า สำเร็จ
• เหรียญเจริญพรเงิน สร้างทั้งหมด ๓๔๓ เหรียญ ในจำนวนนี้ คำว่า “เจริญพร” อยู่ด้านล่าง ๒๗๑ เหรียญ เพราะเมื่อปั๊มเหรียญเงินได้ ๒๗๑ เหรียญแม่พิมพ์เหรียญเจริญพรล่างก็แตกใช้ปั๊มต่อไม่ได้ จึงต้องถอดพิมพ์ใหม่และย้ายคำว่า “เจริญพร” ไปอยู่ข้างบน เพราะฟอร์มของภาพจะได้สวยขึ้น และได้ปั๊มเหรียญเงินต่อไปจนหมดจำนวนที่ตัดไว้ ๗๒ เหรียญ รวมเป็น ๓๔๓ เหรียญ ทุกเหรียญได้ตอกเลขตั้งแต่ ๑-๓๔๓ ไว้ที่ช่องว่างด้านหลัง ระหว่าง “นะมะพะทะ” กับ “วัดละหารไร่” ส่วนทางฐานสิงห์มุมขวามือได้ตอกโค๊ตตัว “ท” เอาไว้ เหรียญทั้งหมด ๓๔๓ เหรียญนี้ได้แจกฟรีไปเพียง ๓ เหรียญ คือ ถวายหลวงปู่ทิม ๑ เหรียญ และศิษย์ใกล้ชิด ๒ คนคือ หลวงตารอด รองเจ้าอาวาสวัดละหารไร่และโยมสาย แก้วสว่าง คนละ ๑ เหรียญ ที่เหลือ ๓๔๐ เหรียญได้นำออกให้บูชาเหรียญละ ๑๐๐ บาท
• เหรียญเจริญพรนวโลหะ สร้างทั้งหมด ๑,๑๖๖ เหรียญ คำว่า “เจริญพร” อยู่ด้านบนทุกเหรียญ ตอกหมายเลข ๑-๑,๑๖๖ ไว้ใกล้ฐานด้านหน้าเหรียญ ระหว่างโต๊ะนั่งกับคำว่า “หลวงปู่ทิม” ส่วนโค๊ตตัว “ท” ตอกไว้บนสังฆาฏิ เหรียญนวโลหะนี้ปั๊มเป็นเหรียญสุดท้าย เพราะหลวงปู่ทิม ท่านสั่งว่าทำให้เสร็จก่อนพระอาทิตย์ตกดิน โดยย้ำแล้วย้ำอีก พอถึงเวลาพระอาทิตย์ตกดินตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ผมก็สั่งให้ช่างหยุดปั๊มและเก็บแม่พิมพ์ทุกตัวพร้อมเศษเหรียญทุกเหรียญ ขนขึ้นรถเอาไปให้หลวงปู่ทิม ปลุกเสกทันทีโดยไม่ได้ตัดขอบเหรียญ เมื่อเสกเสร็จแล้วจึงเอากลับมาตัดขอบ ปรากฎว่าตัดขอบชำรุดไม่นำออกจำหน่าย ๒๘ เหรียญ นอกนั้นเหรียญที่สมบูรณ์ออกให้บูชาเหรียญละ ๕๐ บาท
• เหรียญเจริญพรเนื้อชิน สร้างทั้งหมด ๔๐๐ เหรียญ คำว่า “เจริญพร” อยู่ด้านบนทุกเหรียญ เนื้อชินปั๊มก่อนเหรียญนวโลหะ  โดยเมื่อปั๊มเหรียญเจริญพรเนื้อเงินที่เหลืออีก ๗๒ เหรียญเสร็จจึงปั๊มเหรียญเนื้อชินต่อ บางเหรียญมีโค๊ตตัว “ท” ตอกที่ใต้ฐาน เพราะเดิมตั้งใจจะทำไว้แจกกรรมการแต่มาเปลี่ยนแปลงภายหลัง เลยนำออกให้บูชา เหรียญละ ๕๐ บาท จนหมด จึงทำให้มีเหรียญแจกกรรมการติดไปด้วย
• เหรียญเจริญพรทองแดง มีด้วยกันทั้งหมด ๑๕,๘๙๕ เหรียญ มีทั้ง ๓ แบบ คือ แบบเจริญพร (ล่าง) ๙,๐๐๐ เหรียญ, แบบเจริญพร (บน) มี ๒ พิมพ์ ได้แก่ พิมพ์ตัวอักษรลึก และพิมพ์ตัวอักษรตื้น เจริญพร(บน)มีรวมกัน ๖,๘๙๕ เหรียญ ออกให้บูชาเหรียญละ ๒๐ บาท

เหรียญเจริญพร (ล่าง) ทองแดง เป็นเหรียญกรรมการ ตอกโค๊ต ?ท? ไว้ปลายสังฆาฏิ และเลข ๙	ด้านหลังจารึกข้อความ การสร้างศาลาการเปรียญ วัดละหารไร่ ระยอง เหรียญเจริญพรทั้งบนและล่าง ใช้แม่พิมพ์ด้านหลังพิมพ์เดียวกันทั้ง ๓ พิมพ์เพราะแม่พิมพ์สมบูรณ์ดี ไม่แตก
เหรียญเจริญพรเนื้ออาปาก้า หรือเหล็กขาว ปั๊มเป็นครั้งแรกเพียง ๒ เหรียญ อยู่ที่ผู้สร้าง ๑ เหรียญ และคุณเพียรวิทย์ อีก ๑ เหรียญ หลังจากพิจารณาแม่พิมพ์ว่าถูกต้องแล้วจึงเริ่มปั๊ม เหรียญนี้ตอกโค๊ต ตัวนะ ในเม็ดงา ที่เริ่มชำรุดแล้วไว้ ๓ ตำแหน่งเพื่อแสดงว่าโค๊ต นะ ในเม็ดงาชำรุดแล้ว	ด้านหลัง
เหรียญเจริญพร (ล่าง) บุด้วยทองคำ	ด้านหลัง ตอกโค๊ตเลข ๓
เจริญพร (บน) นวโลหะหมายเลข ๕๕๕ เหรียญนี้เป็นของผู้สร้างไม่ได้ตอกโค๊ต ?ท? แต่ตอกโค๊ต ?นะ? ในเม็ดงา ที่หมดสภาพแล้ว	ด้านหลังองค์นี้ตอกโค๊ต ตราศาลา ที่ชำรุดแล้วเช่นกัน

            สำหรับเหรียญทองแดงเจริญพร (ล่าง) ส่วนใหญ่จะรมดำเกือบทั้งหมด (แต่ที่ไม่รมดำก็มีอยู่บ้าง) ส่วนเจริญพร (บน) ไม่ได้รมดำแต่รมมันปู ตอกโค๊ตตัว “ท” ที่สังฆาฎิ ผิดไปประมาณ ๔๐๐ เหรียญ เพราะตอกกลางคืน แสงสว่างไม่พอจึงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเหรียญเนื้อนวโลหะ เพราะรมสีมันปู (เหรียญเจริญพรบน) จึงดูคล้ายกันเป็นเหตุให้ตอกหมายเลขผิดเพราะคิดว่าเป็นเนื้อนวโลหะ ตั้งแต่หมายเลข ๑๐๔๐-๑๑๑๐ ผิดไปด้วยถึง ๗๐ เหรียญ ดังนั้นเลขชุดนี้จึงมีทั้งเหรียญทองแดงและเหรียญนวโลหะ ส่วนเหรียญสำหรับแจกกรรมการนั้นได้ตอกโค๊ต “ท” ไว้ที่ชายสังฆาฎิ และเลข ๙ ที่ใต้ฐาน มีอยู่เพียง ๘๐๐ เหรียญเท่านั้น 
            เมื่อนำเหรียญเจริญพรทั้งหมดไปถึงวัดละหารไร่แล้ว ผมและเพื่อนๆ ได้นำแม่พิมพ์ทุกตัวทั้งตัวผู้และตัวเมียไปวางโชว์ในตู้กระจกที่ใช้รับบริจาคเงิน เมื่อเหรียญเจริญพรออกและหมดไปอย่างรวดเร็ว ต่อมาได้มีเซียนพระนักสร้างเหรียญปลอมกำลังเดินทางมาซื้อแม่พิมพ์จากวัด ผม, คุณวิรัชและคุณอารมณ์ จึงรีบเดินทางไปวัดละหารไร่แล้วนำแม่พิมพ์ทุกตัวตอกทำตำหนิต่อหน้าหลวงปู่ทิม และเมื่อวันเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชร (๕ พฤษภาคม ๒๕๑๗) ได้นำแม่พิมพ์มาหลอมผสมไปในเนื้อพระกริ่งชินบัญชรด้วย 
            เหรียญเจริญพรเมื่อนับยอดเหรียญทั้งหมดต่อหน้ากรรมการวัดอีกครั้ง แล้วได้ขอให้หลวงปู่ปลุกเสก ท่านได้ปลุกเสกให้เป็นพิเศษถึง ๗ วัน ๗ คืน ก่อนปลุกเสกผมได้เรียนถามท่านว่า หากมีผู้นำไปทดลองยิงขอให้เห็นผล เป็นมหาอุดหรือแคล้วคลาดด้วย เพราะคนสมัยนี้ชอบทดลอง ซึ่งเท่าที่ผ่านมาได้ทราบและเห็นกับตามาหลายรายว่า ปากกระบอกปืนบวมหลายราย บางกระบอกกระสุนถึงกับขัดลำกล้องก็มี

เหรียญเจริญพร (บน) เนื้อชิน สร้าง ๔๐๐ เหรียญ เป็นเนื้อที่ออกมาเป็นพิเศษปลอมได้ยาก บางเหรียญตอกโค๊ต ?ท? ไว้ที่สังฆาฎิ และบางเหรียญตอกเลข ๙ ไว้ใต้ฐาน	ด้านหลังองค์นี้ตอกโค๊ต ตราศาลา
เหรียญเจริญพรหลังเรียบ ตอกโค๊ต ?นะแอล? (นะใหญ่) ไว้ที่สังฆาฏิ องค์นี้พิเศษติดผงพรายกุมาร,เทียนชัยและเกศาหลวงปู่ทิมไว้ด้วยแล้วปิดทองคำเปลว	ด้านหลังจารมือ ลงยันต์ห้าหรือยันต์จินดามณี ซึ่งเป็นยันต์ครู ประจำตัวหลวงปู่ทิม
เหรียญเจริญพร (บน) กะไหล่ทอง เหรียญที่นำกลับไปเสกอีกครั้งต้องต๊อกโค๊ตศาลาไว้ด้วยเท่านั้น องค์นี้ตอกโค๊ต นะ ในเม็ดงา และ โค๊ต นะแอล (นะใหญ่)	ด้านหลัง ตอกโค๊ต ตราศาลา
เหรียญเจริญพรเนื้อทองแดง ที่ตอกหมายเลขผิด เพราะตอกเวลากลางคืนแสงสว่างไม่พอ เข้าใจว่าเป็นเหรียญเนื้อนวโลหะเพราะผิวเหรียญรมสีน้ำตาลมันปู	ด้านหลังเหรียญเจริญพรเนื้อทองแดง

            เมื่อปลุกเสกเหรียญเสร็จ ผมได้เรียนถามหลวงปู่ว่า “เหรียญดีทางไหน?” ท่านว่าเหรียญเจริญพรดีทางเมตตามหานิยม แต่มหาอุดและแคล้วคลาดก็มี เมื่อบอกท่านว่ามีคนเอาไปทดลอง ท่านบอกว่า อย่าเอาไปลองเลยเพราะเป็นเหรียญเมตตา ถ้าทนไม่ได้อยากจะลองให้ไปลอง องค์จ้อย (คือ พระปรกใบมะขาม) เพราะจ้อย (เล็กมากๆ) ยิงแม่นก็ยิงไม่ถูก พูดแล้วท่านก็หัวเราะ 
            ในการตอกโค๊ตและตอกลำดับเลขเหรียญ หลวงปู่ทิมสั่งให้ตอกให้เสร็จภายในวันเสาร์ที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๑๗ จึงรีบทำตั้งแต่เดินทางกันไปถึง ตอกกันทันทีที่หน้ากุฏิหลวงปู่ บางครั้งตัวเลขพลัดตกลอดพื้นกระดานลงไปใต้ถุนหลายครั้ง แต่ก็ให้เด็กวัดไปเก็บขึ้นมาทุกครั้ง จนมืดแล้วโค๊ตเลข ๑ และเลข ๗ ก็ตกลงไปอีก ครั้งนี้ไม่มีใครกล้าลงไปเก็บเพราะใต้ถุนวัดรกมาก จึงเอาเลขอีกชุดมาตอกแทน เหรียญที่มีเลข ๑ และเลข ๗ บางคนดูว่าเป็นเหรียญปลอมเพราะเลขผิดการพิสูจน์ว่าเป็นเหรียญเจริญพรแท้หรือปลอมจึงขอให้ดูตำหนิเหรียญเป็นสำคัญก่อน

            มูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก ก่อตั้งมาได้ ๓๒ ปีแล้ว มีภารกิจมากมาย ทั้งช่วยวัดละหารไร่และโรงเรียนวัดไร่ที่หลวงปู่ทิมเป็นผู้ให้กำเนิด,สนับสนุนการศึกษา,จัดตั้งหน่วยช่วยเหลือประชาชนเคลื่อนที่คอยวิ่งรถรับส่งคนเจ็บคนป่วย อยู่ที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง,รวมถึงงานสาธารณประโยชน์ต่างๆมากมาย ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง

            มูลนิธิหลวงปู่ทิมจึงได้สร้างวัตถุมงคลออกเพื่อหารายได้ใช้ในกิจการนี้และขณะนี้กำลังคิดจัดทำเหรียญเจริญพรขึ้นอีกรุ่นหนึ่งชื่อ “ชาติเหนือสิ่งอื่นใด” (เจริญพรปราบมาร) เพื่อหาเงินรายได้มาใช้ในกิจการของมูลนิธิ และคิดจัดส่งเหรียญไปแจกจ่ายแก่ทหาร, ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามเห็นสมควรต่อไป

เหรียญเจริญพรรุ่น ?ชาติเหนือสิ่งอื่นใด? (เจริญพรปราบมาร) ด้านหน้าเป็นพิมพ์เจริญพรแต่งใหม่ ด้านหลังเป็นรูปพระเจ้าตากสินมหาราช (ปราบมาร) พร้อมอักขระยันต์หัวใจสำคัญๆ เพื่อให้เป็นเหรียญเจริญพรที่เข้มขลังอีกรุ่นหนึ่งของหลวงปู่ทิม

            เมื่อท่านไม่ให้สร้างพระกริ่ง ผมก็ขอสร้างเหรียญเจริญพรขึ้นมาอีกครั้ง ท่านอนุญาต ทั้งว่าให้เอาพระยันต์หัวใจต่างๆในยันต์สารพัดกันใส่ไว้ด้วย ดังนั้นเหรียญเจริญพรสอง นอกจากองค์หลวงปู่ทิมจะเลียนแบบเหรียญเจริญพรรุ่นแรกแล้ว อักขระเลขยันต์ต่างๆก็เปลี่ยนใหม่หมด เมื่อนำตัวอย่างหรือเหรียญลองพิมพ์ไปให้ท่านดู ท่านชอบใจมาก บอกกับพระประสิทธิ วัดโพธิสัมพันธ์ ว่าถูกใจท่านมากมีอักขระเลขยันต์ได้เต็มตามที่ท่านให้ไว้ แต่ถึงกระนั้นผมก็สร้างขึ้นไม่มาก เพราะเกรงว่าจะทำให้เกร่อเกินไป และจากการที่หลวงปู่ท่านชอบใจแบบยันต์หลังเหรียญเจริญพรสองนี้ ผมจึงนำแบบยันต์ด้านหลังเหรียญเจริญพรสองไป เป็นแบบด้านหลังเหรียญปรกไตรมาสด้วย

เหรียญเจริญพรสอง ลองพิมพ์ด้วยเนื้อดีบุก ตอกโค๊ตตัว ?อิ? ไว้ที่สังฆาฏิ	ด้านหลังนำเหรียญอีกชิ้นหนึ่งมาประกบติดกัน แล้วเลี่ยมพลาสติก
เหรียญเจริญพรสอง เนื้อทองแดงลองพิมพ์ เป็นเหรียญที่ปั๊มให้ดูเป็นตัวอย่าง ด้านหลังเรียบ	ด้านหลังเรียบ มีจารมือ เป็นยันต์ห้า
เหรียญเจริญพรสอง เนื้อเงิน หมายเลข ๙๗ ตอกโค๊ต ?นะ ในเม็ดงา? ที่เกือบหมดสภาพ	ด้านหลังเหรียญลงอักขรเลขยันต์เต็มจนหลวงปู่ชอบใจมาก
เหรียญเจริญพรสอง เนื้อนวโลหะ หมายเลข ๙๗	ด้านหลังตอกโค๊ต ?อิ? กลางเหรียญ

            เนื้อทองคำ สร้างเพียง ๖ เหรียญ ด้านหน้าตอกโค๊ต “นะ ในเม็ดงา”ที่ตอกชุดชินบัญชร โดยตอกไว้แบบคว่ำ-หงาย ๒ ตัว ที่สังฆาฏิ ส่วนด้านหลังตอกโค๊ต “อิ” และหมายเลข ๑-๖ ไว้ตรงกลางเหรียญ 
            เนื้อเงิน สร้าง ๑๑๑ เหรียญ ตอกหมายเลข ๑-๙๗ ไว้ ส่วนเหรียญที่ ๙๘-๑๑๑ จะตอกเลข ๙๗ ไว้ทุกเหรียญเนื่องจากเลข ๙๗ คืออายุของหลวงปู่ในขณะนั้น และตอกโค๊ตตัว “นะ ในเม็ดงา” ไว้ที่สังฆาฏิทุกเหรียญ 
            เนื้อนวโลหะ สร้าง ๑๐๙ เหรียญโดยใช้ชนวนชินบัญชรมาหลอมรีดแล้วปั๊ม ด้านหน้าจะตอกหมายเลข ๑-๙๗, ส่วนเหรียญที่ ๙๘-๑๐๙ จะตอกหมายเลข ๙๗ ไว้ทุกเหรียญ ด้านหลังตอกโค๊ต “อิ” ไว้ตรงกลาง 
            เนื้อทองแดง สร้าง ๒,๕๘๙ เหรียญ ทุกเหรียญจะตอกโค๊ต “อิ” ไว้ที่สังฆาฎิและหมายเลข ๑-๒๕๘๙ 
ปลุกเสกเดี่ยวตามแบบฉบับของท่านพร้อมพระชุด ๘ รอบ 
            

            สำหรับเหรียญเจริญพรหลังเรียบหรือหลังไม่มีอักขรเลขยันต์เหมือนเหรียญอื่น (แต่มักจารมือลงอักขระไว้) นั้นผมเองสร้างไว้เป็นการส่วนตัว สาเหตุการสร้างเหรียญเจริญพรหลังเรียบ มาจากการสร้างปรกใบมะขามหลังเรียบ เรื่องมีว่า พี่ชุน กรมชลฯ นักเลงพระรุ่นพี่ ซึ่งเราทำงานที่กรมชลประทานด้วยกัน พี่ชุนเป็นคนเพชรบุรี และเป็นศิษย์หลวงพ่อสุข วัดเขาบันไดทอง แกต้องการสร้างพระปรกใบมะขามถวายหลวงพ่อสุข ผู้เป็นอาจารย์ เพื่อหาเงินไปสร้างเขื่อนหน้าวัด พี่ชุนมาหาผม ให้หาช่างทำปรกใบมะขามให้ ๒,๐๐๐ องค์ มีงบอยู่ ๒,๐๐๐ บาท ซึ่งไปทำที่ไหนไม่ได้ เพราะต้องมีค่าแม่พิมพ์ด้วย ผมจึงรับไปทำให้

เหรียญเจริญพรหลังเรียบ เนื้อเงิน ปั๊มจากเหรียญปรกไตรมาสเนื้อเงิน ทำไว้เพียง ๒ เหรียญ	ด้านหลัง พระเย็น คำมี ศิษย์หลวงปู่ทิมและเป็นหลานหลวงปู่แก้ว เกสาโรเป็นผู้จารยันต์ห้า
เหรียญเจริญพรหลังเรียบ ตอกโค๊ต ?นะแอล? (นะใหญ่) ไว้ที่สังฆาฏิ องค์นี้พิเศษติดผงพรายกุมาร,เทียนชัยและเกศาหลวงปู่ทิมไว้ด้วยแล้วปิดทองคำเปลว	ด้านหลังจารมือ ลงยันต์ห้าหรือยันต์จินดามณี ซึ่งเป็นยันต์ครู ประจำตัวหลวงปู่ทิม

            โดยไปทำที่ร้านช่างยิ้ม เพื่อประหยัดและรวดเร็ว ไม่ต้องแกะพิมพ์ใหม่ โดยไปค้นแม่พิมพ์ที่มีแกะไว้แล้วและยังไม่ได้ปั๊ม ในครั้งนั้นผมได้พบแม่พิมพ์พระปรกใบมะขามที่เป็นตัวต้นแบบปรกมะขามหลวงปู่ทิม พร้อมกับตัวถอดสำรองเหรียญเจริญพร (บน) อยู่รวมกัน 
            นอกจากปั๊มพระปรกใบมะขามหลังเรียบให้พี่ชุน ๒,๐๐๐ องค์ ในราคา ๒,๐๐๐บาทถ้วนแล้ว ผมยังปั๊มไว้อีก ๑,๐๐๐ องค์เพื่อขอให้หลวงปู่ทิมปลุกเสก (รวมปรกหลังเรียบที่ปั๊มทั้งสิ้น ๓,๐๐๐ องค์) แบ่งให้พี่ชุน ๒,๐๐๐ องค์ แล้วถวายหลวงปู่ทิมไว้ ๕๐๐ องค์, ผมเก็บไว้เอง ๕๐๐ องค์ 
            พระปรกใบมะขาม ๒,๐๐๐ องค์ของพี่ชุน นำไปให้หลวงพ่อสุขปลุกเสกอีกครั้งแล้วตอกโค๊ตด้านหลังเป็นตัว “อะ” ( ร-ร ) ในวงกลม ออกให้บูชาที่วัดเขาบันไดทององค์ละ ๒๐ บาท

ปรกใบมะขามหลังเรียบหลวงปู่ทิม ปั้มจากเหรียญปรกไตรมาส ๑๐๐ เหรียญ ได้ปรกหลังเรียบราว ๕๐๐-๖๐๐ องค์ องค์พระจะหนากว่าปกติ บางองค์มีรอยเหรียญเก่า (ปรกไตรมาส) ด้วย	ด้านหลังปรกใบมะขามหลังเรียบ องค์นี้เห็นร่องรอยเหรียญเก่าที่ปั๊มจากปรกไตรมาสหลวงปู่ทิมชัดเจน องค์พระจะหนากว่าปรกวัดเขาวัดบันไดทอง(เฉพาะส่วนของคุณชินพร๕๐๐องค์)เพราะปั๊มจากเหรียญไตรมาส
ปรกใบมะขามหลังเรียบ วัดเขาบันไดทอง จ.เพชรบุรี ปั้มพร้อมกับปรกหลังเรียบหลวงปู่ทิม โดยหลวงปู่ทิมท่านปลุกเสก ๑ อาทิตย์ แล้วพี่ชุน กรมชล นำไปให้หลวงพ่อสุข วัดเขาบันไดทอง ปลุกเสกอีกครั้ง สร้างจำนวน ๒,๐๐๐ องค์เพื่อหาเงินไปสร้างเขื่อนหน้าวัด	ด้านหลังปรกใบมะขามหลังเรียบวัดเขาบันไดทอง ตอกโค๊ต ?อะ? ( ร-ร ) ไว้ด้านหลัง

            อีก ๕๐๐ องค์ที่ถวายหลวงปู่ทิม เมื่อหลวงปู่ทิมมรณภาพแล้วก็ตกอยู่ที่ คุณเพียรวิทย์ จารุสถิติ และได้เอาโค๊ตตัว “ท” ตอกไว้ด้านขวามือองค์พระ

            ส่วนอีก ๕๐๐ องค์ซึ่งผมเก็บไว้นั้นทำจากเหรียญปรกไตรมาส ๑๐๐ เหรียญ เหตุเพราะโลหะที่จะปั๊มพระเล็กๆ อย่างปรกใบมะขามหมด ผมจึงเอาเหรียญปรกไตรมาส ๑๐๐ เหรียญมาตัดแล้วปั๊มเป็นพระปรกใบมะขามหลังเรียบไว้ พร้อมกันนั้นได้ให้ช่างยิ้ม ปั๊มเหรียญเจริญพรหลังเรียบขึ้น ๑,๐๐๐ เหรียญ เพื่อเก็บไว้เป็นของส่วนตัว แล้วจึงเอาแม่พิมพ์ทั้ง ๒ ตัวไปทิ้งแม่น้ำหน้าสโมสรกรมชลประทาน โดยมีพี่ชุนและคุณวิรัช ชำนาญณรงค์เป็นพยานรู้เห็นด้วย 
            พระชุดหลังเรียบจึงมี พระปรกใบมะขามของวัดเขาบันไดทอง ๒,๐๐๐ องค์ตอกโค๊ตตัว “อะ” ( ร-ร ) ไว้ด้านหลัง และพระปรกใบมะขามหลังเรียบที่อยู่กับหลวงปู่ทิม ๕๐๐ องค์ซึ่งเนื้อและขนาดเหมือนของวัดเขาบันไดทองแต่ตอกโค๊ตตัว “ท” ตัวเดียวกับเหรียญเจริญพรกรรมการไว้ด้านขวาองค์หลวงปู่ และอีก ๕๐๐ องค์ที่อยู่กับผมซึ่งเป็นพิมพ์เดียวกันแต่ ค่อนข้างหนาเพราะเอาเหรียญนาคปรกไตรมาสมาปั๊ม 
           

            สำหรับเหรียญเจริญพรหลังเรียบ ทำทั้งหมด ๑,๐๐๐ เหรียญ นำไปติดรูปหล่อฐานปูปลา วัดหนองกรับปี ๒๕๓๐ จำนวน ๔๑๐ องค์ ที่เหลืออีก ๕๙๐ เหรียญตอกโค๊ตตัว “นะแอล”(นะ ใหญ่) ไว้ที่กลางสังฆาฏิ และชายสังฆาฎิก็มี ที่ตอกโค๊ตไว้ที่ชายสังฆาฏิเป็นเนื้อทองแดงที่นำเหรียญนาคปรกไตรมาสมาปั๊มไว้ประมาณ ๓๐๐ เหรียญ เหรียญเจริญพรหลังเรียบได้นำออกแจกในวาระทำบุญกฐิน, ผ้าป่า ไปหลายครั้งจนหมด และต่อมาผู้ที่ได้เหรียญเจริญพรหลังเรียบไปต่างประสบเหตุการณ์เหลือเชื่ออย่างมากมายไม่แพ้เจริญพรรุ่นแรก, และเจริญพรสอง

          เมื่อปี ๒๕๓๓ เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ขึ้นในกรุงเทพ รถบรรจุถังแก๊สมาเต็มคันรถปริมาณหมื่นลิตรระเบิดขณะเลี้ยวลงทางด่วนเพื่อเข้าถนนเพชรบุรี แรงระเบิดทำให้ผู้คนล้มตายกันเป็นจำนวนมากข่าวดังไปทั่วโลก ลูกชายคนเล็กของผมที่มีภาพนั่งอยู่หน้าปู่ฤาษี อิสริโก ในหนังสือพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ทิม อิสริโก เมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๒๖ รอดจากความตายในครั้งนั้นอย่างเหลือเชื่อ ถ้าไม่เรียกอภินิหารของหลวงปู่ทิมก็ไม่ทราบว่าจะเรียกอะไร เพราะมีเหรียญเจริญพรห้อยคอเปลือยโดยไม่ได้เลี่ยมพลาสติกกันพระชำรุดอยู่เพียงเหรียญเดียว สาเหตุตั้งใจจะลงไปตัดผมร้านเดียวกับที่รถแก๊สลงทางด่วนแล้วพุ่งเข้าชนเป็นจุดแรกลูกค้าที่กำลังตัดผมทั้งผู้ที่นั่งคอยตลอดจนช่างตัดผม ๒๒ คนตายไม่เหลือเลย มีเพียงกระดูกเท่านั้นที่เหลืออยู่ ลูกชายผมไม่ลงไปตัดผมทั้ง ๆ ที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องลงไปในเย็นวันนั้น เหตุเพราะรถสาย ๓๘ เที่ยวนั้นมีที่ว่างพอดี แกไม่ต้องโยนโหนรถอีกกว่าชั่วโมงก่อนถึงบ้าน เพราะรถติดมากทุกวัน

            เหรียญเจริญพรที่ลูกชายผมห้อยคออยู่วันนั้นคือ เหรียญเจริญพรหลังเรียบ เป็นเหรียญ ๆ เดียวกับหนังสือประวัติพระอาจารย์สาคร ลงว่าเป็นเหรียญเจริญพรรุ่นแรกของพระอาจารย์สาคร ผมขอยืนยันว่าไม่ใช่พระอาจารย์สาครไม่ได้ปลุกเสกแต่หลวงปู่ทิมปลุกเสกก่อนที่ท่านจะเริ่มป่วยแล้วเข้ารักษาที่ ร.พ.สมเด็จ ณ.ศรีราชาอยู่เดือนกว่า เมื่อกลับวัดแล้วก็มรณภาพเมื่อ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๑๘ เหรียญเจริญพรหลังเรียบนี้ทำขึ้นพร้อมพระปรกใบมะขาม วัดบันไดทอง จังหวัดเพชรบุรี ที่ด้านหลังตอกโค๊ดเป็นตัว “อะ” คือตัว ร-ร ภาษาขอม เพื่อหาเงินสร้างเขื่อนหน้าวัดบันไดทอง โดยคุณรังสรรค์ ธัญญาหาร หรือ พี่ชุ้น กรมชล เพื่อนร่วมงานผมเป็นผู้สร้างถวายและให้ผมเป็นคนทำพร้อมปรกใบมะขามหลังเรียบ และเหรียญเจริญพรหลังเรียบ
            เมื่อผมคุยให้ใครๆ ฟังว่าลูกชายผมรอดตายจากรถแก๊สระเบิดเพราะห้อยเหรียญเจริญพรหลังเรียบอยู่ในคอเพียงเหรียญเดียว พวกเซียนพระไม่ค่อยมีใครเชื่อหาว่าผมทำขึ้นมาใหม่เพราะในปีนั้น เหรียญเจริญพรเนื้อทองแดงธรรมดาราคาก็ใกล้หมื่นแล้ว  ใครเชื่อและอยากได้เหรียญเจริญพรหลังเรียบ ผมก็แจกให้ฟรี ๆ ไม่คิดเงิน คุณเป็ดหรือ อำพล เจน นักเขียนชื่อดังผู้นำเรื่องหลวงปู่พรหมา เขมจาโร  มาเปิดเผยผมให้ไปหลายเหรียญ หลาย ๆ คนที่ผมแจกไปฟรี ๆ เมื่อเอาไปใช้ก็เกิดประสบการณ์และเล่าลือกันออกไป เหรียญเจริญพรหลังเรียบที่แจกไปฟรี ๆ ก็มีราคาขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนไปถอดออกมาจากรูปเหมือนหลวงปู่ทิมรุ่นฐานปูปลาขนาด ๓ นิ้ว ที่ติดไว้ด้านหลัง สร้างเพื่อหาเงินทอดกฐินที่วัดหนองกลับของพระอาจารย์สาคร เมื่อปี ๒๕๓๐ จำนวน ๔๑๐ องค์ให้บูชาเพียงองค์ละ ๗๐๐ บาท และถวายพระอาจารย์ไปอีกประมาณ ๓๐๐ เหรียญ แล้วท่านคงจะจารยันต์ ๕ ไว้ด้านหลังเพราะหลังเรียบผู้คนเลยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเหรียญที่พระอาจารย์สาครปลุกเสกเอง

เหรียญเจริญพรหลังเรียบ นำเหรียญนาคปรกไตรมาสมาปั๊มซ้ำ ตอกโค๊ตนะใหญ่ที่สังฆาฏิ	ด้านหลัง บางเหรียญเห็นยันต์จากปรกไตรมาสชัดเจน แต่บางเหรียญด้านหลังเห็นยันต์ไม่ชัดเจนหรือมองไม่เห็น
เหรียญเจริญพรหลังเรียบ ปั๊มจากทองแดงปกติ ตอกโค๊ตนะใหญ่ที่ใต้ฐาน	ด้านหลัง บางเหรียญไม่จารอักขระ
เหรียญเจริญพรหลังเรียบ ปั้มจากทองแดงปกติ ตอกโค๊ตนะใหญ่ที่ใต้ฐาน	เหรียญเจริญพรหลังเรียบ บางเหรียญจารอักขระเลขยันต์

            เมื่อกลางปีที่แล้ว หลานชายผม ปณิธาน วรรณวนิช ทำงานอยู่โครงการหลวงดอยคำ ขณะที่หยิบของใส่ถุงให้ผู้มาซื้อผัก ผลไม้จากโครงการหลวงที่ อตก.สวนจตุจักร เหรียญเจริญพร ห้อยคอหลุดออกมาจากเสื้อ ลูกค้าก้มลงคว้าขึ้นมาดูแล้วพูดว่า หนุ่มคนนี้ ยิงไม่ตายนะ คุณปณิธาน เงยหน้าขึ้นมองจึงได้ทราบว่า คุณชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีนี่เองที่ก้มลงมาหยิบเหรียญขึ้นดู ท่านชวนพูดต่อไปว่า ลูกน้อง ๒-๓ คน รอดตายจากใต้เพราะใช้เหรียญเจริญพรหลวงปู่ทิม ผู้ที่ติดตามท่านชวนจึงสอบถามที่มาที่ไปของเหรียญ คุณปณิธาน บอกว่าได้มาจากมือหลวงปู่ทิมสมัยเด็ก แล้วใช้ห้อยคอมาตลอด แคล้วคลาดรอดตายจากพวกนักเลง –นักเรียนมาหลายครั้ง ผู้ถามท่านนั้นคงไม่เชื่อว่า รับเหรียญนี้มาจากมือหลวงปู่ทิม เพราะคุณปณิธาน นอกจากตัวเล็กแล้วใบหน้ายังเด็กมาก คุณปณิธานบอกว่าผมอายุ ๔๑ ปีแล้ว รับจากมือหลวงปู่ทิมจริง ๆ เมื่ออายุ ๗ ขวบ ผมเป็นหลานคุณชินพร ผู้สร้างพระให้หลวงปู่ทิม เหรียญที่คุณชวนก้มลงหยิบขึ้นมาดูจากคอคุณปณิธาน เป็นเหรียญเจริญพรหลังเรียบที่คุณปณิธาน รับมาจากมือหลวงปู่ทิม ตอนมีอายุเพียง ๗ ขวบ
            เมื่อข่าว สุเชาว์ นุชนุ่ม นักฟุตบอลทีมชาติถูกไล่ยิงแล้วรอดตายอย่างปาฏิหาริย์จากกระสุน .๓๘ ที่ยิงใส่ถึง ๗ นัด ในคอแขวนเหรียญเจริญพรล่างเหรียญเดียว เป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ เหรียญเจริญพรล่างและเจริญพรบนเพียงเนื้อทองแดงเลยมีสนนราคาเหยียบแสนไม่เพียงราคาสูงอย่างเดียวทั้งยังหายากด้วย เหรียญเจริญพรหลังเรียบที่หลาย ๆ คนยังสงสัยแต่ผู้ที่ใช้แล้วมีประสบการณ์บอกเล่ากันต่อ ๆ ว่าใช้แล้วไม่ต่างกันแต่ราคาถูกกว่า จึงเป็นที่แสวงหากัน คุณประชา ตรีภาสัย ที่ชักจูงผมไปสร้างพระให้หลวงปู่ทิมต้องเดือดร้อนไปด้วย ทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่ยุ่งเกี่ยวกับวงการพระแล้ว ผู้คนได้ยินแต่ชื่อไม่ค่อยมีใครเห็นตัวพลอยเดือดร้อยไปด้วย เมื่อปี๒๕๕๒คนระยองไปตามหาเหรียญเจริญพรหลังเรียบจากคุณประชา เมื่อคุณประชากลับระยองเพราะนาน ๆ จะกลับสักทีก็จำเป็นต้องไปค้นห้องพระก็พบเหรียญเจริญพรหลังเรียบ ๑ ถุง กว่า ๓๐ เหรียญ มีเหรียญกะไหล่ทอง ๕ เหรียญ นักเลงพระจังหวัดระยองขอเหมาทั้งหมดให้ราคาเหรียญละ ๑๕,๐๐๐ บาท คุณประชาตอบปฏิเสธ แล้วก็โทรมาหาผมซึ่งนาน ๆ ครั้งจะโทรมาหา ขอเหรียญเจริญพรหลังเรียบผมอีก เพราะรู้ดีว่าผมต้องมีอีกแน่ ๆ ผมเลยถามคุณประชาว่า เหรียญเจริญพรหลังเรียบได้จากใคร ต้องไม่ใช่จากเราแน่นอน คุณประชาบอกว่าได้มาจากหลวงปู่ทิมก่อนเข้าโรงพยาบาลไม่นาน ทั้งพูดว่าหลวงปู่ทิมท่านรู้นิสัยเราว่าขออะไรก็ต้องมาก ๆ ท่านเลยหยิบให้มามากหน่อย แต่เหรียญของเราหลายเหรียญไม่ได้ต๊อกโค๊ดตัว “นะใหญ่” และยังมีกะไหลทองอีก ๔-๕ เหรียญจำไม่ได้ว่าเอาไปกะไหลที่ไหน เมื่อวันที่พบกันครั้งล่าสุดวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๒ ในคอคุณประชา ตรีภาสัย ก็ห้อยเหรียญเจริญพรหลับเรียบอยู่เพียงเหรียญเดียว คุณประชา เพื่อนซี้ที่นำผมไปสร้างพระให้หลวงปู่ทิม จนเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่    ออกไอเดียอีกว่าเหรียญนี้น่าจะเรียกชื่อใหม่ว่า “เหรียญเจริญพร ๓” แล้วจะเป็นเหรียญที่จะต้องดังกว่าเหรียญเจริญพรล่างหรือเหรียญเจริญพรบนเพราะมีจำนวนน้อยกว่ามาก และจะหายากกว่าเพราะ TWO IN ONE มี ๒ เหรียญในเหรียญเดียว
            เหรียญเจริญพรหลังเรียบหรือด้านหลังไม่มีอักขระเลขยันต์เหมือนเหรียญอื่น ๆ ผมสร้างไว้เป็นของส่วนตัว สาเหตุการสร้างเหรียญเจริญพรหลังเรียบเพราะก่อนที่หลวงปู่ทิมจะมรณภาพพระเครื่องต่าง ๆ และเหรียญเจริญพรทั้งล่างและบนของหลวงปู่ทิมก็มีราคาแพงขึ้นแล้ว และเมื่อผมมีโอกาสแปลก ๆ เป็นสาเหตุให้ต้องทำเหรียญเจริญพรหลังเรียบขึ้นก็มาจากการสร้างปรกใบมะขามให้หลวงพ่อสุก วัดบันไททองเรื่องมีว่า พี่ชุ้น กรมชลฯ หรือคุณรังสรร ธัญญาหาร นักเลงพระรุ่นพี่ ซึ่งเราทำงานที่กรมชลประทานด้วยกัน พี่ชุ้นเป็นคนเพชรบุรี ที่มีฐานะดีคนหนึ่ง และเป็นศิษย์หลวงพ่อ สุก วัดบันไดทอง แกต้องการสร้างพระปรกใบมะขามถวายหลวงพ่อสุก ผู้เป็นอาจารย์ เพื่อหาเงินไปช่วยท่านสร้างเขื่อนหน้าวัด พี่ชุนมาหาผม ให้ช่วยทำปรกใบมะขามให้ ๒,๐๐๐ องค์ บอกว่ามีงบอยู่เพียง ๒,๐๐๐ บาท ซึ่งไปทำที่ไหนไม่ได้ เพราะต้องมีค่าแม่พิมพ์ด้วย ผมจึงรับไปทำให้

เหรียญปรกไตรมาส	ด้านหลังเหรียญปรกไตรมาส

            ผมไปทำที่ร้านช่างยิ้ม ยอดเมือง เพื่อประหยัดและรวดเร็ว ไม่ต้องแกะพิมพ์ใหม่ จึงไปค้นแม่พิมพ์ที่มีแกะไว้แล้วและยังไม่ได้ปั๊มเป็นเพราะไม่ถูกใจผู้จ้างก็มีในครั้งนั้นผมได้พบแม่พิมพ์พระปรกใบมะขามที่เป็นตัวต้นแบบปรกมะขามหลวงปู่ทิมพร้อมกับตัวถอดสำรองเหรียญเจริญพร (บน) อยู่รวมกัน ๒ ชิ้น ช่างยิ้ม ยอดเมืองก็รีบทำให้ในราคาองค์ละ ๑ บาท นอกจากปั๊มพระปรกใบมะขามหลังเรียบให้พี่ชุน ๒,๐๐๐ องค์ ในราคา ๒,๐๐๐ บาทถ้วนแล้ว ผมยังปั๊มปรกมะขามหลับเรียบไว้เป็นส่วนตัวอีก ๑,๐๐๐ องค์ พอดีแผ่นโลหะชนิดบางที่ใช้ปั๊มปรกมะขามหมดผมจึงเอาเหรียญนาคปรกไตรมาส ๑๐๐ เหรียญ มาตัดแล้วปั๊มทับไปด้วยได้ประมาณ ๕๐๐ กว่าองค์ แล้วนำไปขอให้หลวงปู่ทิมปลุกเสก (รวมปรกหลังเรียบที่ปั๊มทั้งหมด ๓,๐๐๐ องค์) แบ่งให้พี่ชุ้นไป ๒,๐๐๐ องค์ ถวายหลวงปู่ทิมไว้ ๕๐๐ องค์ ผมเก็บเฉพาะส่วนที่ปั๊มจากเหรียญนาคปรกไตรมาส พระปรกใบมะขาม ๒,๐๐๐ องค์พี่ชุ้นนำไปให้หลวงพ่อสุกปลุกเสกอีกครั้งแล้วตอกโค๊ตด้านหลังเป็นตัว “อะ” (ร-ร) ในวงกลม ออกให้บูชาที่วัดบันไดทององค์ละ ๒๐ บาท ปรกใบมะขามหลังเรียบ ๕๐๐ องค์ที่ถวายหลวงปู่ทิมท่านก็แจกไปบ้างเพราะหลายคนได้รับมาจากมือท่านก็มี เมื่อหลวงปู่ทิมมรณภาพแล้วพระปรกมะขามชุดนี้ก็ตกอยู่ที่ คุณเพียรวิทย์ จารุสถิติ และได้เอาโค๊ตตัว “ท” ตอกไว้ ส่วนอีก ๕๐๐ องค์ซึ่งผมเก็บไว้นั้นทำจากเหรียญปรกไตรมาส ๑๐๐ เหรียญเหตุที่ใช้เหรียญนาคปรกไตรมาสมาปั๊มก็เพราะโลหะที่จะปั๊มพระเล็ก ๆ อย่างปรกใบมะขามหมด ผมจึงเอาเหรียญนาคปรกไตรมาส ๑๐๐ เหรียญที่กำลังออกใหม่และอยู่ในรถมาตัดแล้วมาปั๊มเป็นพระปรกใบมะขามหลังเรียบไว้ ในโอกาสนี้ผมก็ให้ช่างยิ้ม ปั๊มเหรียญเจริญพรหลังเรียบขึ้นมาอีกจำนวนหนึ่งประมาณพันกว่าองค์แผ่นทองแดงก็หมดถ้าจะทำต่อก็ต้องรอทองแดงอีกหลายวัน ผมเลยเอาเหรียญนาคปรกไตรมาสจำนวนหนึ่งปั๊มไว้ประมาณ ๔-๕๐๐ เหรียญ เพื่อเก็บไว้เป็นของส่วนตัวเพราะเวลานั้นเหรียญเจริญพรล่างและบนเริ่มหายากและแพงแล้ว เสร็จแล้วจึงเอาแม่พิมพ์ทั้ง ๒ ตัวกลับ แล้วจึงเอาแม่พิมพ์ทั้ง ๒ ตัวไปทิ้งแม่น้ำหน้าสโมสรกรมชลประทาน โดยมีพี่ชุ้น (ยังมีชีวิตอยู่) และคุณวิรัช ชำนาญณรงค์ เป็นพยานรู้เห็นด้วย
            พระชุดหลังเรียบจึงมี พระปรกใบมะขามของวัดเขาบันไดทอง ๒,๐๐๐ องค์ตอกโค๊ตตัว “อะ” (ร-ร) ไว้ด้านหลัง และพระปรกใบมะขามหลังเรียบที่อยู่กับหลวงปู่ทิม ๕๐๐ องค์ซึ่งเนื้อและขนาดเหมือนของวัดบันไดทองแต่ตอกโค๊ตตัว “ท” ตัวเดียวกับเหรียญเจริญพรกรรมการไว้ด้านซ้ายองค์หลวงปู่ ส่วนอีก ๕๐๐ องค์ที่อยู่กับผมซึ่งเป็นพิมพ์เดียวกันแต่ค่อนข้างหนาเพราะเอาเหรียญนาคปรกไตรมาสมาปั๊ม 
สำหรับเหรียญเจริญพรหลังเรียบ ทำทั้งหมดประมาณพันกว่าเหรียญนำไปติดรูปหล่อฐานปูปลาออกให้บูชาเพื่อนำเงินเข้ากองกฐินองค์ละ ๗๐๐บาท องค์ที่ไม่ติดเหรียญเจริญพรหลังเรียบองค์ละ ๕๐๐ บาท ผมแจกฟรี ๆ ไปจนหมดทดแทนผู้ที่ต้องการปรกใบมะขามองค์เพื่อแจกในงานทอดกฐินที่ผมเป็นเจ้าภาพไปทอดที่วัดหนองกรับเมื่อปี ๒๕๒๙ จำนวนประมาณ ๔๑๐ องค์ 
            เหรียญเจริญพรหลังเรียบได้นำออกแจกในวาระทำบุญกฐิน, ผ้าป่า ไปหลายครั้งจนหมด และต่อมาผู้ที่ได้เหรียญเจริญพรหลังเรียบไปต่างประสบเหตุการณ์เหลือเชื่ออย่างมากมายไม่แพ้เจริญพรรุ่นแรกและเจริญพรสองแต่หลายคนก็มีข้อสงสัยคิดว่าทำขึ้นใหม่บ้างเป็นของเสริมบ้าง แต่นานเข้าผู้ใช้เองมีประสบการณ์ และยอมรับมากเข้าทุกที เพราะเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ด้วยตัวเองเป็นอย่างดี
           

            ส่วนเหรียญเจริญพรหลังเรียบที่เหลือชนิดที่ปั๊มจากเนื้อทองแดงธรรมดาจะต้องโค๊ตตัวนะแอลไว้ที่ใต้ฐานหรือใต้ตั่งที่นั่งใต้รูปหลวงปู่ทิม ส่วนที่ปั๊มจากเหรียญไตรมาสอีก ๓๐๐-๔๐๐ เหรียญ ตอกโค๊ตตัวนะแอลไว้ที่กลางสังฏาติ และถ้าสังเกตดูเหรียญเจริญพรหลังเรียบชุดนี้ด้านหน้าจะเห็นรูปหลวงปู่ทิมปั๊มทับรอยพญานาค ๗ เศียรและด้านหลังจะเห็นอักขรเลขยันต์ล่าง ๆ เพราะปั๊มจากเหรียญปรกไตรมาสส่วนหนึ่ง ทราบว่าเหรียญเจริญพรหลังเรียบแบบปั๊มซ้ำจากปรกไตรมาสข้างนอกซื้อขายกันถึง ๔๐,๐๐๐-๔๘,๐๐๐ บาท คงเพราะเหรียญนาคปรกไตรมาสมูลค่าก็กว่า ๓๐,๐๐๐ บาทแล้ว
            

            ถ้าไม่ต้องการเช่าหาบูชาเหรียญเจริญพรล่าง-เจริญพรบนเฉพาะเนื้อทองแดงในราคาเหยียบแสนแล้ว ก็ลองเอา “เหรียญเจริญพร ๓” ซึ่งมีน้อยมาก หลวงปู่ทิมก็ปลุกเสกเหมือนกันไปลองใช้ดู แล้วจะมีแต่เจริญขึ้นเหมือนที่หลวงปู่เคยพูดว่า น้ำขึ้นขึ้นตามน้ำ น้ำลงไม่ลงตามน้ำมีนักการเมืองที่มีชื่อเสียงเป็นรัฐมนตรีทุกครั้งที่มีการจัดตั้งรัฐบาล แม้นแต่บางครั้งสอบตกไม่ได้เป็น ส.ส. ท่านนี้ก็ยังได้เป็นรัฐมนตรีในคอท่านแขวนเหรียญเจริญพรทองคำอยู่ด้วย