|หน้าแรก| |เกี่ยวกับเรา| |ติดต่อทีมงาน| |แจ้งปัญหาการใช้งานแจ้งปัญหาการใช้งาน|
Login
 
!!! ยินดีต้อนรับสมาชิกทุกท่านเข้าสู่เว็บบอร์ด www.classicamulet.com !!!

หน้าแรก » ประวัติพระเครื่อง » หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง นางกวักเนื้อผงพุทธคุณ

ไปยังหน้า
หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง นางกวักเนื้อ
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง นางกวักเนื้อผงพุทธคุณ
 โพสต์ วันเวลา: 2014-11-01 10:45:17 
สถานะ:
รูปสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: 2011-05-06 00:00:00
สร้างกระทู้: 500
ตอบ: 3608

ประวัติวัดศรีรัตนาราม (บางพัง) โดยสังเขป

วัดศรีรัตนาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกขานกันทั่วไปว่า “วัดบางพัง” ตั้งอยู่ เลขที่ 39 บ้านคลองบางพัง ซอยสวัสดี หมู่ที่ 2 ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เป็นวัดโบราณสร้างครั้งสมัยอยุธยาตอนปลาย ราวปี พ.ศ. 2305 ไม่ทราบนามผู้สร้าง ชาวบ้านนิยมเรียกขานนามวัดว่า “วัดบางพัง” ตามนามท้องที่ที่ตั้งไว้ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี สาเหตุที่ชื่อวัดบางพัง ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า เพราะน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยากัดเซาะพื้นดินริมตลิ่งแถบบริเวณนั้นพังเข้ามามาก เป็นบริเวณกว้างมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว จึงได้เรียกกันว่าตลิ่งพังแล้วและกลายมาเป็นบางพังในที่สุด วัดนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบันมีทางรถยนต์ตัดเข้าถึงวัดทำให้การคมนาคมไปมาหาสู่กันสะดวก

เจ้าอาวาสเท่าที่สืบทราบได้จำนวน 4 รูป คือ (ที่มา : มหาโพธิ์ 15 ธ.ค. 31)

รูปที่ 1 พระอธิการเริญ
รูปที่ 2 หลวงพ่อแฉ่ง ศิลปัญญา
รูปที่ 3 พระอธิการประมวล ปวัฑฒโน
รูปที่ 4 พระอธิการอินทร์ อกตมโล เจ้าอาวาสปัจจุบัน (ปี31)

ประวัติหลวงพ่อแฉ่ง โดยสังเขป

หลวงพ่อแฉ่งท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมาก มีอาคมขลัง มีพลังทางจิตแก่กล้า เป็นพระปฏิบัติเชี่ยวชาญทางวิปัสสนากรรมฐานในช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นผู้คงแก่เรียน เป็นศิษย์หลายสายหลายสำนักด้วยกัน และเป็นศิษย์ในหลวงพ่อปานวัดบางนมโค จ.อยุธยาด้วย (ได้รับอิทธิพลพระพิมพ์ทรงสัตว์จากหลวงพ่อปาน) ด้วยเหตุที่กล่าวมานี้จึงทำให้วัดบางพังในอดีตคึกคัก มีผู้คนเดินทางมาจากถิ่นใกล้และไกล มาฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชากับหลวงพ่อแฉ่งเป็นอันมาก บางคนก็มาขอวัตถุมงคล บางคนก็มารักษาโรค บางคนก็มาปรึกษาความและเรื่องราวร้อยแปด เพราะเขาเหล่านั้นเห็นว่าหลวงพ่อท่านช่วยได้

ผู้ที่ไปขอเรียนคาถาอาคม หลวงพ่อท่านจะให้ฝึกจิตบังคับใจเรื่องสมถวิปัสนากรรมฐานก่อน เมื่อเห็นว่าพอจะใช้ได้ไปไหว จึงจะให้นิสัยธรรมข้อหนึ่งที่หลวงพ่อมักจะอบรมสั่งสอน (เข้าใจว่าคุณธรรม) หลังจากนั้นจึงจะบอกตัวคาถาและเคล็ดวิชาต่าง ๆ ให้ การเรียนวิชาอาคมจากหลวงพ่อนั้น ท่านมิใช่แต่เพียงให้ศิษย์เรียนผูกเท่านั้น ท่ายังให้ศิษย์เรียนแก้ด้วย ครบถ้วนกระบวนการ คือ เพื่อป้องกันแก้ไขคนที่มีทุกข์ถูกของถูกคุณให้พ้นภัย เป็นต้น

หลวงพ่อแฉ่ง มรณะภาพราว ปี2502 ศพของท่าน สมเด็จพระสังฆราช (จวน) วัดมกุฎกษัตริยาราม โปรดให้นำมาฌาปณกิจที่วัดมกุฎฯ และในงานศพของหลวงพ่อแฉ่งก็ได้แจกเหรียญรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดเป็นของที่ ระลึกด้วย


การสร้างวัตถุมงคล

หลวงพ่อแฉ่งท่านสร้างวัตถุมงคลไว้หลายสิ่งหลายอย่างด้วยกัน มีทั้งพระเนื้อผง พระเนื้อดินเป็นรูปพระรอดองค์เล็ก ๆ, ตะกรุด, ผ้ายันต์ธง และทรายเสก เป็นต้น แต่ในตอนนี้จะกล่าวถึงเฉพาะพระเนื้อผงเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอยู่ทั่วไป

มูลเหตุในการจัดสร้าง บรรดาศิษย์และผู้ใกล้ชิดที่ศรัทธาในจริยวัตรของหลวงพ่อพร้อมใจกันขอให้หลวง พ่อสร้างอิทธิวัตถุ เพื่อเป็นของที่ระลึก และคุ้มครองป้องกันตน ประกอบกับในระยะนั้นมีเค้าของสงครามจะปะทุระเบิดขึ้น ผู้คนเริ่มเสาะแสวงหาวัตถุมงคลเอาไว้คุ้มกันตัว และเพื่อตอบแทนชาวบ้านที่มาร่วมทำบุญบริจาคทรัพย์สมทบทุนสร้างถาวรวัตถุสิ่ง ต่าง ๆ ภายในวัด หลวงพ่อแฉ่งได้สร้างวัตถุมงคลขึ้นในปี พ.ศ.2484 แจกให้ศิษย์และชาวบ้านที่ศรัทธามาขอพระจากท่านเพื่อนำไปคุ้มครองป้องกันตัว

จำนวนในการจัดสร้าง วัตถุมงคลที่หลวงพ่อสร้างขึ้นมีจำนวนเท่าไร ไม่มีใครทราบ เพราะมิได้มีการจดบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เป็นการทยอยสร้างทยอยปลุกเสก กล่าวคือพอสร้างได้จำนวนมากพอสมควรแล้วท่านก็จะทำพิธีปลุกเสกเสียคราวหนึ่ง เป็นการปลุกเสกเดี่ยว จากนั้นจึงนำมาแจกเสียคราวหนึ่ง จำนวนพระทั้งหมดที่สร้าง หลายท่านยืนยันว่าไม่ถึง 84,000 องค์ สันนิษฐานกันว่าประมาณหนึ่งหมื่นองค์เศษ ๆ เห็นจะได้ วัตถุมงคลที่ท่านสร้างนั้น แจกฟรี ไม่มีการเช่าบูชาเหมือนปัจจุบัน ส่วนใครจะศรัทธาบริจาคทรัพย์ทำบุญให้วัดจำนวนเท่าไหร่ เป็นเรื่องของศรัทธาและกำลังทรัพย์ของแต่ละท่าน

พระหลวงพ่อแฉ่งใช้ดีด้านไหน วัตถุมงคลที่หลวงพ่อสร้างและปลุกเสกนั้น มีประสบการณ์เป็นที่โจษขานไปทั่วตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็คือ ด้านแคล้วคลาดจากภยันตรายต่าง ๆ ทางด้านเมตตามหานิยมก็ไม่เบาเช่นกัน (ตรงนี้เป็นความเชื่อพื้นฐานเกี่ยวกับพระเนื้อผงอยู่แล้ว ว่ากันว่าพระเนื้อผงส่วนใหญ่จะมีพุทธคุณด้านเมตตา) นอกจากนี้ยังใช้เป็นพระหมอแบบพระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคได้อีกด้วย

ลักษณะและสีของเนื้อพระ พระเนื้อผงที่หลวงพ่อแฉ่งสร้างขึ้นเป็นเนื้อประเภทปูนปั้นไม่ได้เผาไฟ ส่วนผสมหลักคือปูนขาวจากเปลือกหอยและน้ำมันตังอิ๊ว นอกนั้นก็เป็นผงวิเศษ 5 ประการ คือ ผงอิธะเจ ผงปถะมัง ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และผงตรีนิสิงเห นอกนั้นก็มีเกสรดอกไม้ที่ชื่อเป็นมงคลนาม ทรายเสก และข้าวสุก เป็นต้น การโขลกตำเนื้อพระและส่วนผสมตลอดจนการกรองผงมีความประณีตบรรจงมาก เนื้อละเอียดเนียนเข้ากันสนิท การผสมน้ำมันตังอิ๊วก็พอดี เนื้อพระแลดูนุ่มตาฉ่ำใส สีเหลืองเข้มกว่าสีของเนื้อพระกรุวัดคู้สลอดเล็กน้อย (กรณีไม่บรรจุกรุ) เรียกขานกันว่าเนื้อเทียนชัย เพราะสีของเนื้อพระแลดูคล้ายเทียนขี้ผึ้งสีเหลืองนั่นเอง แต่แลดูฉ่ำใส มีความซึ้งมากกว่าเทียน สามารถแลเห็นส่วนผสมภายในที่ลึกลงไปได้ด้วยแว่นขยาย

การแยกพิมพ์ทรง พระเนื้อผงที่หลวงพ่อสร้างมีกี่แบบกี่พิมพ์ไม่มีใครตอบได้ ทางวัดก็ไม่มีเก็บข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน ส่วนใหญ่ก็รู้เท่าที่ตัวเองมีอยู่ และหนังสือลงข้อมูลกันไว้ หากจะแยกย่อยออกไปจริง ๆ น่าจะมีมากกว่า 30 พิมพ์ แม้ว่าพิมพ์หลัก ๆ จะมีอยู่ประมาณ 10 พิมพ์ แต่ในพิมพ์หลัก ๆ นั้นก็ยังแยกย่อยออกไปอีก ยกตัวอย่างเช่น พิมพ์ทรงหนุมานไม่ถือพระขรรค์ ถือพระขรรค์ข้างซ้าย ถือพระขรรค์ข้างขวา มีครอบแก้ว ไม่มีครอบแก้ว เป็นต้น แต่จะหาผู้ที่เก็บรวบรวมได้ครบจริง ๆ ยังไม่เคยเห็น ยิ่งปัจจุบันเข้าสนามว่าหาของแท้ของท่านยากแล้ว ให้แท้และสวยยิ่งยากเป็นเท่า ๆ ตัว เพราะพระของท่านนั้น เนื้อค่อนข้างเปราะ กะเทาะ แตกหัก ชำรุดง่าย ผู้ที่มีเก็บต้องระมัดระวังดูแลรักษาเป็นอย่างดี



 
 ส่งข้อความส่วนตัว

cron
© 2008 www.classicamulet.com